นายศรีวอน บุญกองรัตน์

นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งข้าวพวง

LINK BANNER 

LINK ที่น่าสนใจ

หน่วยงานภายนอก

สำหรับเจ้าหน้าที่

LINK ช่องทางลัด

• เอกสาร - รายงาน
• แผนฯ - เทศบัญญัติ
• แผนการใช้งบประมาณ
• การจัดซื้อ จัดจ้าง
• งานทรัพยากรบุคคล
• แผนป้องกันการทุจริต
• มาตรการส่งเสริมความโปร่งใส
• คู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน
• คู่มือมาตรฐานการให้บริการ
• ผลการปฏิบัติงาน
• สำรวจความพึงพอใจต่อการให้บริการประชาชน
• งานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
• กฎหมายอื่นๆ
• งานสวัสดิการสังคมและสังคม
• การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส

ความรู้เรื่อง : โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่
สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง โดย เมื่องดอาหารเป็นระยะเวลา
อย่างน้อย 8 ชั่วโมงแล้ว ตรวจพบค่าระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเดชิลิตร การป่วยเป็นโรคเบาหวานในระยะยาว
จะมีผลในการทำลายหลอดเลือด ถ้าหากเป็นโรคเบาหวานอย่างน้อย 5 ปี ล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจังและเหมาะสม
อาจนำไปสู่สภาวะแทรกช้อนที่รุนแรงได้

ประเภทของ โรคเบาหวาน

1. เกิดจากเซลล์ตับอ่อนถูกทำลาย โดยภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ขาดอินซูลิน มักพบในคนอายุน้อย
2. เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินมักพบในอายุ 30 ปีขึ้นไป รูปร่างท้วมหรืออ้วนเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด
(ร้อยละ 95 ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด)
3. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เกิดจากการที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินมากขึ้น ในระหว่างตั้งครรภ์
มักเกิดเมื่อไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์
4. โรคเบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ เกิดจากความผิดปกติบนสายพันธุกรรม ที่ควบคุมการทำงานของอินซูลิน
เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น โรคของตับอ่อน ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ หรือยาสเตียรอยด์ เป็นต้น

อาการเบื้องต้น

1. ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากในกระแสเลือดและอวัยวะ ต่างๆมีน้ำตาลค้างอยู่มาก ไตจึงทำการกรองออกมาในปัสสาวะ
ทำให้ปัสสาวะหวาน สังเกตจากการที่มีมดมาตอมปัสสาวะ จึงเป็นที่มา ของการเรียก เบาหวาน
2. กระหายน้ำดื่มน้ำในปริมาณมากๆ ต่อครั้ง
3. น้ำหนักตัวลตโตยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะถ้าหากน้ำหนักเคยมากมาก่อน อันเนื่องมาจากร่างกาย
ไม่สามารถนำน้ำตาล ไปสร้างพลังงานได้เต็มที่จึงต้อง นำไขมันและโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้nqแnu
4. แผลหายยาก เมื่อเป็นแผลแล้วจะหายยาก
5. อ่อนเพลียเหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง
6. อาการชาไม่ค่อยมีความรู้สึกเนื่องมาจากเบาหวานจะทำลายเส้นประสาท
ให้เสื่อมสมรรถภาพลงความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกจึงลดลง

การป้องกัน

1. กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ต้องจำกัดปริมาณอาหารในกลุ่มแป้ง เช่น ข้าว ขนมปังขัดขาว อาหารรสหวานรวมไปถึงกลุ่มที่มีไขมันสูง
เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน หรือ อาหารประเภททอด ให้เพิ่ม การรับประทานผัก ผลไม้

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
หรือหาเวลาออกกำลังกาย ให้ได้ 2 ชั่วโมง 30 นาที ต่อสัปดาห์
3. ควบคุมน้ำหนักตัว ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (โดยค่าดัชนีมวลกายไม่เกิน 23)
4. งดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เพื่อลดภาวะแทรกช้อนจากโรคเบาหวานเช่น ภาวะทางด้านหลอดเลือดหัวใจ
และหลอดเลือด สมอง (ตีบ แตก ตัน) รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดอัมพาตได้

ข้อมูล : กรมควบคุมโรค